Myspecialstock

นายสายยัง บุเงิน อายุ 46 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านรวมพลัง ตำบลคำขวาง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ยึดอาชีพรับซื้อของเก่าขายเลี้ยงครอบครัว มาร่วม 20 ปี เจอผลกระทบจาก Covid ทำทุนหาย กำไรหด แต่เขาไม่ท้อ ตระเวนเก็บลูกตาลโตนดที่ถูกทิ้งมาประดิษฐ์เป็นตัวต่อเงิน ตัวต่อทอง และมดมงคล ทั้งขายทั้งแลกข้าว เพื่อประคองตัวเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียในช่วงยากลำบากไปได้ ลูกชายคนโตของเขาไม่ปกติ ลูกสาวคนเล็กที่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ส่วนลูกชายอีก 2 คน ขณะนี้ให้ไปบวชเรียน เพราะนายสายยังไม่มีกำลังส่งเสีย เขาบอกกับตัวเองว่า หากรอการช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว คนในครอบครัวอาจไม่มีข้าวกินกันแล้ว ประกอบกับช่วงสมัยหนุ่มๆที่ไปทำงานอยู่ตามจังหวัดภาคกลางตอนบน เห็นคนนิยมเอาลูกมะพร้าวขนาดเล็กมาทำเป็นตัวต่อเงิน ต่อทอง และมดมงคลแขวนไว้ตามบ้านเรือน ตัวช่วยสุดท้าย ตัวละ 59 บาท เท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ Covid ที่ต้องเผชิญ ทำให้หลายๆครอบครัวต้องเดือดร้อน รวมไปถึงครอบครัวเขาเหล่านี้ แต่พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่ย่อท้อ ต้องประดิษฐ์ มดและต่อเพื่อแลกข้าวประทังชีวิต.

จากสถานการณ์ Covid ในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง หลายกิจการต้องเลิกจ้าง ปิดกิจการ โรงงานต้องหบุดดำเนินการผลิต ส่งผลให้ประชาชนตกงานเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับกระทบจาก Covid ในครั้งนี้ โดยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 เป็นเวลา 3 เดือน ผ่านทางเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 มีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 12.8 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตั้งแต่รอบแรกจำนวน 4.4 ล้านราย กลุ่มที่ขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและผ่านเกณฑ์จำนวน 5.0 ล้านราย และกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิ และผ่านเกณฑ์จำนวน 3.3 ล้านราย โดยกระทรวงการคลังกระทรวงจะเร่งดำเนินการโอนเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับสิทธิส่วนใหญ่จำนวน 11.0 ล้านราย ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และส่วนที่เหลือประมาณ 1.8 ล้านราย จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ กระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า พร้อมพิจารณามาตรการเยียวยาที่เหมาะสม สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนรับสิทธิมาตรการ เยียวยา 5,000 ไม่...

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2562 และเมื่อวันที่ 11 มี.ค. องค์การอนามัยโลกก็ประกาศให้เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic) เพราะนอกจากแพร่ระบาดไปนอกเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีนแล้ว ก็ยังระบาดไปทั่วจีน และทั่วโลก 210 ประเทศและดินแดน จนมีจำนวนสะสมของผู้ป่วยมากกว่า 3,245,000 คน และเสียชีวิตแล้ว 229,220  คน หลายประเทศอย่าง สหรัฐ และญี่ปุ่น ดูเหมือนตัวเลขผู้ป่วย COVID-19 จะยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ทั้งยังแพร่กระจายไปยังประเทศข้างเคียง จนรัฐบาลแต่ละชาติต้องออกมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มารับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ สถิติโรคโควิด-19 ทั่วโลก Read moer=> https://www.sanook.com/news/8020722/

วันที่ 1 พฤษภาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อ ถนนมิตรภาพ-รถติดบอกด้วย ได้โพสต์ภาพ ประชาชนแห่กลับบ้าน ในวันหยุดยาว 1 - 4 พฤษภาคม โดยได้ระบุข้อความว่า แห่กลับต่างจังหวัดหยุดยาว 3 วัน เนื่องในวันแรงงาน ถนนมิตรภาพ ขาเข้าโคราช เริ่มมีปริมาณรถเพิ่มขึ้น ตามปั๊มน้ำมันต่างๆ มีประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้มีชาวโซเชียลเข้ามาคอมเม้นท์เป็นจำนวนมากด้วยความห่วงใย กลัวเป็นพื้นที่สีแดง ให้ป้องกัน รักษาความสะอาด มีความรับผิดชอบต่อที่สาธารณะ ต้องรายงานตัว เพื่อความปลอดภัยของคนในหมู่บ้านด้วยนะค่ะ

จากกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ออกมาตรการช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงcovid 19โดยการลดอัตราการส่งเงินสมทบสำหรับลูกจ้าง เหลือเพียง 1% หรือ 150 บาท จากเดิม 5% ส่วนนายจ้าง เหลืออัตรา 4% ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 แต่บางบริษัทได้หักเงินประกันสังคมลูกจ้างในอัตรา 5% หรือ 750 บาท เท่าเดิม จึงเกิดเป็นโครงการคืนเงินจากประกันสังคมขึ้นเฟซบุ๊ก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่า 1. การลดอัตราเงินสมทบให้ ผู้ประกันตนประกันสังคมมาตรา 33จากเดิมร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 ส่วนนายจ้างจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 4 เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีนาคม - พฤษภาคม 2563) 2. ผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา 39 ได้รับการลดอัตราเงินสมทบเช่นกัน จากเดิมร้อยละ 9 เหลือร้อยละ 1.8 (เดือนละ 86 บาท) เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีนาคม -พฤษภาคม 2563) 3. ขยายการนำส่งเงินสมทบออกไปอีก 3 เดือน คือ -เงินสมทบเดือนมีนาคม ให้จ่ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 -เงินสมทบเดือนเมษายน ให้จ่ายวันที่ 15 สิงหาคม 2563 -เงินสมทบเดือนพฤษภาคม ให้จ่ายวันที่ 15 กันยายน 2563 จากการขยายการนำส่งเงินสม...

วันนี้ 30 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบรถตู้หรูมีป้ายติดเขาควายคาราบาว มีข้อความเขียนไว้ว่า อ. ตู่ กับข้าวเพื่อชีวิต พลิกวิกฤตโควิด 19 อย่างละ 20 ( 3 อย่าง 50 ) พร้อมด้วยเบอร์โทรศัพท์ วิ่งอยู่ตามชุมชนตามชุมชนต่างๆ โดยรถตู้คันนี้ได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นร้านค้าขายของชำ หรือร้านโห่วยเคลื่อนที่ ซึ่งภายในจะมีสินค้าหลากหลายชนิด เป็นจำพวกกับข้าวมีทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ของทะเล ฯลฯ มากมาย ซึ่งทราบว่าร้านค้าของชำ หรือรถโชห่วยเคลื่อนที่นี้ ได้ดัดแปลงมาถึง 2 คัน โดยออกเดินสายขายในพื้นที่จังหวัดราชบุรี 1 คัน โดยมีทีมงานนำออกไปขาย ส่วนอีกคันออกเดินสายขายอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจะออกแล่นขายในช่วงเย็นๆ ประมาณบ่าย 3 โมง จนค่ำทุกวัน โดยช่วงเย็นๆชาวบ้านจะได้ยินเสียงจากเครื่องขยายของรถตู้คันนี้จะแล่นขายสินค้าอยู่ในพื้นที่แหล่งชุมชนต่างๆ อยู่ในของทั้งชุมชน ในจังหวัดกาญจนบุรี มาหลายวันหลังเกิดวิกฤต Co VID 19 โดยแต่ละวันจะพบว่ามีประชาชนในชุมชนให้การอุดหนุนเป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านบอกว่าราคาไปแพง และสะดวกดีไม่ต้องออกไปหาซื้อในเมือง ลดรายจ่ายไปได้มากเลย สินค้ายังใหม่และสดเช่นกัน ซึ่งรถตู้คันนี้มาด้...